อำเภอเมือง
- พระปรางค์วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร : ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี ชาวบ้านนิยม เรียกว่า วัดหน้าพระธาตุ เป็นพระปรางค์เก่าแก่ที่สร้างด้วยอิฐฉาบปูนและมีฐานเป็นศิลาแลง จำลอง แบบมาจากนครวัด สันนิษบานกันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยขอมเรืออำนาจในแหลมสุวรรณภูมิ ประมาณพุทธศตวรรษที่ 6 บริเวณฐานระเบียงที่ทางเดินได้รอบ มีเจดีย์ซุ้มทั้งสี่ด้าน ที่วิหารคดรอบลานพระปรางค์ มีพุทธรูปศิลาแรงสมัยทวาราวดี สมัยลพบุรีและสมัยอยุธยาประดิษฐานอยู่โดยรอบ ส่วนกำแพงวัดสร้างด้วยศิลาแลง ทับหลังกำแพงเป็นศิลาทรายแดง สลักภาพพระพุทธรูปปางสมาธิเรียงรายตลอดแนวกำแพง สันนิษฐานว่าเดิมน่าจะเป็นศาสนสถานของขอม เมื่อขอมเสื่อมอำนาจลง พุทธศาสนาได้เผยแพร่มายังสุวรรณภูมิ สถานที่แห่งนี้จึงถูกดัดแปลงมาเป็นวัดในพระพุทธศาสนาสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี : ตั้งอยู่ริมถนนวรเดช ต.หน้าเมือง ใกล้กับหอนาฬิการิมแม่น้ำแม่กลอง อาคารพิพิธภัณฑ์เคยใช้เป็นศาลากลางจังหวัดมาก่อน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อปี พ.ศ.2465 และได้รับการบูรณะเพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในปี พ.ศ.2531 จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับราชบุรีในทุกด้าน อาทิ ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ชาติพันธุ์วิทยา ธรณีวิทยา ศิลปะพื้นบ้าน วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของกลุ่มชนต่างๆ ในจังหวัดราชบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ยกเว้นวันจันทร์-อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าเข้าชมชาวไทย 10 บาท(เด็กเข้าชมฟรี) ชาวต่างประเทศ 30 บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร.0-3232-1513
- เมืองโบราณคูบัว : ตั้งอยู่ที่ตำบลคูบัว อำเภอเมืองราชบุรี ห่างจากศาลากลางจังหวัด ราชบุรีไปทางทิศใต้ประมาณ 8 กม. เป็นอาคารพุทธศาสนาเนื่องในลัทธิมหายานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง จากร่องรอยหลักฐานที่ปรากฏให้เห็น สันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นฐานของวิหาร เนื่องจากมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีบันไดขึ้นสู่ลานประทักษิณชั้นบนด้านทิศตะวันออก ฐานประดับด้วยซุ้มและเสาอิง ซึ่งแต่เดิมเคยมีรูปพระโพธิสัตว์ทำด้วยปูนปั้นประดับตกแต่ง ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่วัดโขลงสุวรรณคิรี ต.คูบัว อ.เมืองราชบุรี
- ค่ายภาณุรังษี : เป็นที่ตั้งของกรมทหารช่าง ริมแม่น้ำแม่กลอง มีสถานที่ท่องเที่ยว น่าสนใจดังนี้
-ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นหลักเมืองที่ตั้งขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ โดย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองเดิมไป ตั้งทางฝั่งตะวันออกแม่น้ำแม่กลอง
-พิพิธภัณฑ์ทหารช่าง เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับ กิจกรรมทหารช่าง รวมทั้งยุทโธปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ในอดีต - สถานที่ท่องเที่ยวภายในค่ายบุรฉัตร
-เทือกเขางู อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 8 กม. ในตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง บริเวณเทือกเขาเป็นที่ตั้งของปูชนียสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ที่สุดของจังหวัด
-ถ้ำระฆัง เป็นถ้ำหินปูน ตั้งอยู่บนเขาพญาปราบที่อยู่ในเทือกเขางู เป็นที่ ประดิษฐานของพระพุทธสยัมภู และศาลเจ้าพ่อพญาปราบ ภายในถ้ำมีหินย้อยเป็นรูประฆัง ปัจจุบัน มีค้างคาวอาศัยอยู่จำนวนมาก - เขาแก่นจันทน์ : ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 2 กม. เดิมชื่อเขาจันทน์แดง บริเวณ เชิงเขาเป็นที่ตั้งของพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาล ที่ 1 มีถนนตัดขึ้นไปถึงบนยอดเขาสูงประมาณ 141 เมตร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ เป็น 1 ใน 4 องค์ ของพระสี่มุมเมือง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นแล้วนำไปประดิษฐาน ณ เมืองรอบพระนคร ได้แก่ จังหวัดราชบุรี ลำปาง สระบุรี และพัทลุง เปิดตั้งแต่ 07.00-18.00 น.ด้านบนสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ตัวเมืองราชบุรีได้
- สวนสาธารณะจักรีอนุสรณ์สถาน : ตั้งอยู่ตำบลดอนตะโก ถนนเพชรเกษม อำเภอเมือง ราชบุรี บริเวณเชิงเขาแก่นจันทร์ เป็นที่ตั้งของพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอด ฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ปัจจุบันจังหวัดได้ปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะที่สวยงาม เป็นที่ พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายของประชาชนทั่วไป
- เขาวัง : อยู่ในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี เดิมเรียก เขาสัตตนาถ สมเด็จพระยาบรมมหา ศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ครั้งดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้สร้างพระราชวังขึ้นบน ภูเขาแห่งนี้ เพื่อให้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2414
- วัดหนองหอย : ตั้งอยู่บนยอดเขาแร้ง ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 13 กม.ไปตามเส้นทางเขางู-เบิกไพร ประมาณ 5 กม.เป็นที่ตั้งของพระวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์กวนอิม หรือพระแม่กวนอิม มีความสูง 16 เมตร หน้าตักกว้าง 9 เมตร และอีกด้านหนึ่งของยอดเขาประดิษฐานพระพุทธรัตนโกสินทร์มหามุณี (หลวงพ่อใหญ่) เป็นวัดที่มีผู้ศรัทธานิยมมาไหว้พระกันมาก เปิดตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. มีงานประจำปีในช่วงเทศกาลตรุษจีน
- วัดอรัญญิกาวาส : จากถนนเขางูเลี้ยวขวา ตรงไปพบสี่แยกถนนเพชรเกษม ตรงขึ้นไป อีกประมาณเกือบ 3 กม. จะเห็นองค์ปรางค์วัดอรัญญิกาวาสตั้งเด่นสง่าแต่ไกล
- จิปาถะภัณฑ์สถานบ้านคูบัว ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ต.คูบัว บริเวณวัดโขลงสุวรรณคิรี เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นของชุมชนบ้านคูบัว ด้วยความริเริ่มของชุมชนหลายองค์กรในพื้นที่ ภายในอาคารแบ่งเป็น 2 ชั้น จัดแบ่งออกเป็นห้องๆ ชั้นล่างจัดแสดงศิลปวัตถุโบราณสมัยทวาราวดี หุ่นขี้ผึ้งจำลอง การริเริ่มโครงการพิพิธภัณฑ์ ห้องแสดงวิถีชีวิตของชุมชนไท-ยวน ที่ได้เคลื่อนย้ายมาจากเชียงแสน เมื่อปี พ.ศ.2347 มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เมืองราชบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
- ถ้ำฤาษีเขางู ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา ในบริเวณสวนสาธารณะเขางู ต.เกาะพลับพลา ลักษณะเป็นถ้ำหรือศาสนสถานที่เกี่ยวเนื่องกับพุทธศาสนา ภายในถ้ำพบพระพุทธรูปจำหลักติดผนังถ้ำเป็นพระพุทธรูปนั่งห้อยพระบาท ปางแสดงพระธรรมเทศนา ตามแบบพุทธศิลป์สมัยทวาราวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-13) รู้จักกันทั่วไปว่า พระพุทธฉายถ้ำฤาษีเขางู ลักษณะพนะพักตร์แบน พระขนงเป็นเส้นนูนโค้งต่อกันเป็นรูปปากกา พระเนตรโปน พระนาสิกแบน พระโอษฐ์หนา ขมวดพระเกศาใหญ่มีรัศมีเป็นรูปดอกบัวตูม ระหว่างข้อพระบาทมีจารึกอักษรปัลลวะภาษาสันสกฤต อ่านว่าปุญกรรมชระศรีสมาธิคุปตะ แปลว่า พระศรีสมาธิคุปตะ เป็นผู้บริสุทธิ์ด้วยการทำบุญ นับเป็นร่องรอยศิลปะสมัยทวารวดีที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง เปิดให้เข้าชม จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-17.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-3232-9226
- ตลาดน้ำดำเนินสะดวก : อยู่ติดกับถนนสุขาภิบาล 1 มีอาณาบริเวณตลอดคลองต้นเข็มปากคลองด้านที่บรรจบกับคลองเฮียกุ่ย จะมีร้านขายของที่ระลึกตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้ที่ไปชมตลาดน้ำสามารถเดินชมไปตามแนวคอนกรีตข้างลำคลองได้จนตลอดถึงปากคลองอีกด้านหนึ่งที่บรรจบกับคลองดำเนินสะดวก ตลาดน้ำเป็นวัฒนธรรมของชาวบ้านที่ค้าขายกันทางน้ำโดยใช้เรือพายเล็กๆ เป็นพาหนะติดต่อแลกเปลี่ยนสินค้า ตั้งแต่เช้ามืดจนใกล้เที่ยงวัน ช่วงที่ตลาดน้ำคึกคักอยู่ในระหว่าง 07.00-12.00 น. ตลาดน้ำแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ เพราะได้ซ่อนเร้นไว้ด้วยความสวยงามและเสน่ห์แก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันตลาดน้ำแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย เมื่อชมตลาดน้ำแห่งนี้แล้ว สามารถนั่งชมทิวทัศน์สวนผลไม้และวิถีชีวิตของชาวบ้านริมคลองได้อย่างทั่วถึง
- ตลาดน้ำดำเนินฯ เก่า (คลองลัดพลี) : อยู่ในเขตตำบลดำเนินสะดวก หน้าวัดราษฎร์เจริญธรรม (วัดสุน) บริเวณนี้เคยเป็นตลาดน้ำดั้งเดิม ซึ่งได้สูญหายไปเมื่อหลายปีก่อน กระทั่งทางจังหวัด ราชบุรีได้ร่วมมือร่วมใจกับประชาชน รื้อฟื้นคืนชีวิตให้กับตลาดน้ำแห่งนี้อีกครั้ง โดยชาวบ้านชาวสวนจะนำผัก ผลไม้ ขนม และอาหาร ลงเรือพายมาขายนักท่องเที่ยวทุกวันตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงบ่าย มีคำขวัญที่ว่า "ล่องคลองลัดพลี ชม วิถีชนแปดเผ่า สัมผัสตลาดน้ำเก่า ชิมของอร่อยเมืองดำเนิน"
- รอยัลไทย แฮนดิคราฟ เซ็นเตอร์ : ตั้งอยู่เลขที่ 240 หมู่ 6 อยู่เลยแยกบางแพไปประมาณ 11 กิโลเมตร(ทางหลวงหมายเลข 325) บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 15 เป็นศูนย์แกะสลักไม้สักเป็นรูปแบบต่างๆ เพื่อประดับตกแต่งและเป็นเฟอร์นิเจอร์ อาทิ ภาพไม้แกะสลัก ชุดโต๊ะรับแขก ตู้ใส่ไวน์ ม่านกั้นห้อง มีการสาธิตการทำกระดาษสา การแกะสลักไม้เป็นลวดลายต่างๆ และมีร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกไว้สำหรับนักท่องเที่ยว อาทิ กระเป๋า โคมไฟ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ เป็นต้น เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-3225-3010-30 หรือที่เว็บไซต์ http://www.thairtc.com/ อีเมล์ royal@infonews.co.th
- ล่องเรือตามเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง : ในอดีตเมื่อครั้งขุดคลองสายนี้เสร็จใหม่ๆ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ทราบถึงชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร จึงทรงเรือมาดกะสวยมาตามลำพัง เส้นทางที่พระองค์เสด็จประพาสนี้ นับเป็นเส้นทางสายประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นห่วงเป็นใยความเป็นอยู่ของพสกนิกรของพระองค์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูง ยากที่ผู้ใดจะลืมเลือน การเดินทางตามเส้นทางเสด็จของพระองค์นี้ จึงมีเรื่องราวน่าศึกษามากมายสายหนึ่งของราชบุรี เริ่มจากท่าน้ำคลองดำเนินสะดวก ผ่านไร่องุ่น แวะชิมน้ำมะพร้าวอ่อน ก่อนผ่านสวนเกษตรผสมผสานชมบ้านเรือนไทยเก่าแก่ริมน้ำ ชิมน้ำตาลมะพร้าวสดแก้กระหายแล้วอิ่มอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวเรือ ผ่านหน้าวัดโชติทายการาม และบ้านเจ็กฮวด ที่ครั้งหนึ่งรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาในแบบสามัญชน และเสวยพระกระยาหารกลางวันที่นี่ ก่อนจะผ่านตลาดน้ำคลองลัดพลีสู่ใจกลางตลาดน้ำดำเนินสะดวกอีกครั้งหนึ่ง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-3224-1023 และ 0-3234-6161
- พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน : ตั้งอยู่ที่วัดขนอน ตำบลสร้อยฟ้า ริมแม่น้ำแม่กลอง อยู่ห่างจากตัวอำเภอโพธารามประมาณ 10 กิโลเมตร ลักษณะเป็นเรือนไทยจัดแสดงนิทรรศการหนังใหญ่ ประวัติความเป็นมาของหนังใหญ่ และกรรมวิธีการแกะสลักตัวหนังใหญ่ มีตัวหนังจำนวน 313 ตัวอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. และทางวัดได้จัดแสดงเชิดหนังใหญ่ทุกวันเสาร์ เวลา 10.00-11.00 น.เพียงรอบเดียว โดยนักเรียนจากโรงเรียนวัดขนอน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เจ้าอาวาสวัดขนอน โทร.0-3223-3386 (เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง : พระครูสังฆบริบาล..นักอนุรักษ์หนังใหญ่ )
- วัดคงคารามและจิตรกรรมฝาผนังวัดคงคาราม : ตั้งอยู่ตำบลคลองตาคต อำเภอโพธาราม เป็นวัดมอญ ภายในอุโบสถวัดคงคารามมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ละเอียดอ่อนสวยงาม ถ่ายทอดตามต้นแบบที่มีชีวิตจริงและภาพพุทธประวัติตอนต่างๆ เขียนขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์โดยช่างฝีมือคนไทยเชื่อสายมอญ มีอายุกว่า 100 ปี (เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง : วัดคงคารามและพระยามอญทั้งเจ็ด)
- วัดเขาช่องพรานและค้างคาวเขาช่องพราน : อยู่ที่ ต.เตาปูน ห่างจากตัว อ.โพธารามไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 9 กิโลเมตร ถ้ามาจากตัวเมืองราชบุรี ใช้เส้นทางเขางู-เบิกไพร ไปประมาณ 17 กิโลเมตร บริเวณเขาช่องพรานมีถ้ำที่สวยงาม คือ ถ้ำพระนอน มีพระพุทธรูปภายในถ้ำมากกว่าร้อยองค์ และมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ความยาว 9 เมตร แต่สิ่งที่สร้างชื่อให้เขาช่องพรานคือ ฝูกค้างคาวนับล้านตัว ที่กรูกันบินออกจากถ้ำพวยพุ่งเป็นสายสีดำ นานนับชั่วโมงทุกเย็นในช่วงใกล้พลบค่ำ เวลาประมาณ 17.30 น. ในช่วงฤดูร้อนค้างคาวจะบินไปทางทิศตะวันออก ในช่วงฤดูหนาวค้างคาวจะบินไปทางทิศตะวันตก
- ค่ายหลวงบ้านไร่ : ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 19 กิโลเมตร อยู่ใน ต.คลองตาคด อ.โพธาราม เคยเป็นที่ตั้งค่ายลูกเสือในรัชกาลที่ 6 เมื่อพระองค์ยกกองลูกเสือป่ามาซ้อมรบในจังหวัดราชบุรีหลายจุด ทางราชการได้สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบามสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ในท่านั่งประทับทอดพระเนตรการซ้อมลูกเสือ
- สระน้ำโกสินารายณ์ : จากหลักฐานการค้นคว้าทางโบราณคดีแสดงว่าเคยเป็นเมือง โบราณมาแต่สมัยเก่า ซึ่งได้ขุดพบพระกรของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ทำด้วยหินทรายแดง 5 พระกรถือคัมภีร์ ลูกประคำ และดอกบัวกับพระบาทของพระโพธิสัตว์คู่หนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้ ประดิษฐานอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี รวมถึงการจัดแสดงโบราณวัตถุร่องรอยอารยธรรม และศิลปวัฒนธรรมของชนพื้นเมือง
- วัดม่วงและพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วง : ตั้งอยู่ ต.บ้านม่วง เป็นวัดที่มีหน้าบันพระอุโบสถเป็นปูนปั้น ลวดลายเรขาคณิตระบายสีคล้ายรูปมังกร กรอบประตูเขียนเป็นรูปซุ้ม บานประตูเป็นไม้ มีภาพเขียนสีเป็นทวารบาลรูปยักษ์ยินถืออาวุธเหยียบอยู่บนสัตว์พาหนะ บนผนังด้านหน้าพระอุโบสถมีภาพจิตกรรม พระอุโบสถวัดม่วงสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วงเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าความเป็นมา วิถีชีวิต วัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่น จัดแสดงโบราณวัตถุ คัมภีร์ใบลาน เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ที่แสดงถึงมรดกทางภูมิปัญญาท้องถิ่น เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น. (เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง : พระครูวรธรรมพิทักษ์..ผู้สร้างพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วง )
- บึงกระจับ : ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ต.หนองกบ เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด และที่บึงนี้มีการเล่นเจ๊ตสกี พายเรือแคนู มีพื้นที่ครอบคลุมในเขต อ.บ้านโป่ง และ อ.โพธาราม การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ก่อนถึง อ.บ้านโป่งประมาณ 3 กิโลเมตร จะเห็นวัดบึงกระจับอยู่ทางขวา เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร
- พิพิธภัณฑ์ปลาสวยงาม (หนองอ้อ วอเตอร์เวิลด์) : ตั้งอยู่เลขที่ 2/3 หมู่ที่ 2 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แสดงพันธ์ปลาสวยงามแปลกๆ มากมาย จัดแบ่งพื้นที่เป็นส่วนต่างๆ ทำให้สามารถเดินเที่ยวชมได้สะดวก อาทิ ซุ้มปลาแปลก ซุ้มปลาคราฟ ซุ่มปลาเทวดา ซุ้มปลาเงินปลาทอง ซุ่มปลาหมอสี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสวนผีเสื้อซึ่งจะทำให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับวงจรชีวิตของผีเสื้อไม่ว่าจะเป็นการกินน้ำหวาน การวางไข่ และการออกจากดักแด้ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-3229-9437
- ถ้ำเขาบิน : ตั้งอยู่ที่ตำบลหินกอง มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่เศษ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ความลึกจากปากถ้ำถึงลึกสุดประมาณ 300 เมตร แบ่งออกเป็น 8 คูหา ตามลักษณะหินงอกหินย้อยวิจิตรตระการตา ภายในถ้ำมีการจัดระเบียบทางเดินอย่างดี และจัดแสงไฟตามกลุ่มหินย้อยต่างๆ เพื่อเสริมจินตนาการให้แก่ผู้มาเที่ยวชม จัดเป็นถ้ำแรกที่มีการจัดแสงสีภายในถ้ำเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ชื่อถ้ำเขาบิน เชื่อว่ามาจากหินงอกหินย้อยรูปพญาอินทรีกางปีกดูสง่างาม และภายในถ้ำยังมีบ่อน้ำแร่เล็กๆ ลึกประมาณ 1 เมตรที่ไม่เคยเหือดแห้ง ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. เสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-3232-9226 การเดินทาง อยู่ห่างจากจังหวัดไปตามทางหลวงหมายเลข 3087 (สายราชบุรี-จอมบึง-สวนผึ้ง) ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร บริเวณกิโลเมตรที่ 20 มีทางแยกซ้ายมือเข้าไปประมาณ 1.6 กิโลเมตร
- สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดีภาคกลาง และสวนสัตว์เปิดเขาประทับช้าง : ห่างจากตัว จังหวัดราชบุรีประมาณ 25 กม. ตามเส้นทางสายราชบุรี – จอมบึง ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาประทับช้าง ตรงข้ามปากทางเข้าถ้ำเขาบิน ในเขตอำเภอเมืองราชบุรี และอำเภอจอมบึง มีพื้นที่ประมาณ 1,267 ไร่ มีต้นไม้ พรรณไม้ต่างๆ ตาม เรื่องราวในวรรณคดีไทยหลากหลายชนิด โดยเฉพาะในช่วงเดือน กุมภาพันธ์-เมษายน จะเป็นช่วงที่ ดอกอรพิม บานสพรั่งสีขาวบริสุทธิ์ สภาพทั่วไปเป็นป่าไม้ร่มรื่นปลูกเป็นสัดส่วนและตกแต่งไว้อย่างสวยงาม มี สัตว์ป่าชนิดต่างๆ เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงแพร่พันธุ์สัตว์ป่าต่างๆ โดยเฉพาะเสือโคร่ง เหมาะสำหรับเป็น ที่พักผ่อนหย่อนใจและศึกษาธรรมชาติ นอกจากนั้น ยังด้มีการจัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 900 เมตร ใช้เวลาในการเดิน 45 นาที ตลอดเส้นทางผ่านแปลงพรรณไม้ที่เกี่ยวข้องกับวรรณคดีไทยและสัตว์ป่า เข่น เสือ กวาง เก้ง เป็นต้น เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
- ถ้ำจอมพลและสวนรุกขชาติ : ตั้งอยู่ที่ ต.จอมบึง อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 30 กม. ตามเส้นทางสาย ราชบุรี – จอมบึง เลยถ้ำเขาบินไป 11 กิโลเมตร ในบริเวณสวนรุกขชาติ ติดกับมหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง สภาพเป็นป่า ธรรมชาติ มีฝูงลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก กรมป่าไม้ได้จัดเป็นสวนรุกขชาติ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ เดิมมีชื่อว่า ถ้ำมุจลินทร์ เมื่อปี พ.ศ.2438 พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ได้เสด็จประพาสถ้ำนี้ทรงพอพระทัยความงานของหินงอกหินย้อย โดยเฉพาะหินย้อยผาวิจิตร ที่เหมือนริ้วไหมอินทรธนูบนป่าของจอมพล จึงทรงพระราชทานนามใหม่ว่า ถ้ำจอมพล นอกจากหินงอกหินย้อยที่สวยงามแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งมีงานฉลองเป็นประจำทุกปีในหน้าแล้ง และได้เริ่มจัดให้มีกิจกรรมประเพณี "ปีนเขาเข้าถ้ำจอมพล" เป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ.2553
- เขากระโจม : ตั้งอยู่ในตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง ห่างจากตัวเมืองราชบุรี 80 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่สูงที่สุดในจังหวัดราชบุรี ประมาณ 1,045 เมตร จากระดับน้ำทะเล การเดินทางสู่ยอดเขา ต้องใช้พาหนะขับเคลื่อน 4 ล้อ สองข้างทางยังเป็นป่าเขาที่สภาพสมบูรณ์ เส้นทางเดินศึกษา ธรรมชาติและพบกล้วยไม้ป่าหลากหลายอยู่ทั่วไป ทัศนียภาพโดยรวมคล้ายป่าทางภาคเหนือ บน จุดสูงสุดเป็นเส้นแบ่งเขตแดนประเทศไทยกับประเทศพม่า มีลานกว้างสำหรับกางเต็นท์พักแรม สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้รอบบริเวณ ระหว่างทางมีน้ำตกผาแดง จุดพักชมวิว และทางเดินศึกษาธรรมชาติที่สวยงาม
- โป่งยุบ : ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 6 บ้านท่าเคย ต.ท่าเคย อยู่ในพื้นที่ของชาวบ้าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีลักษณะแปลกตา ในเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดินทำให้เกิดลักษณะโตรกผาคล้ายกับแพะเมืองผี จังหวัดแพร่ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. อัตราค่าเข้าชมคันละ 30-50 บาท การเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 3087 (จอมบึง-สวนผึ้ง) บริเวณกิโลเมตรที่ 26-27 ก่อนถึงตัว อ.สวนผึ้ง 5 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 3.6 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาไปอีก 500 เมตร
- น้ำตกบ่อหวี : ตั้งอยู่บริเวณหมู่ที่ 4 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง เป็นน้ำตกที่มีความ เป็นธรรมชาติอยู่มาก
- ศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (สวนป่าสิริกิติ์) : เป็นแหล่งรวมพรรณ ไม้นานาชนิด มีสัตว์ป่าและลำธาร มีแก่งหินขนาดใหญ่ชื่อ แก่งส้มแมว กลางลำน้ำภาชี เนื้อที่ประมาณ 3,000 ไร่ ตั้งอยู่เชิงเทือกเขาตะนาวศรี ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง ริมเส้นทางถนนสายสวนผึ้ง-บ้านห้วยม่วง ห่ามที่ทำการ อ.สวนผึ้ง 25 กม.ห่างตัวเมืองราชบุรีประมาณ 86 กม.
- น้ำตกผาชลแดน : ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ที่ยังคงสภาพธรรมชาติอยู่มาก และน้ำตกในแต่ละชั้นมีความสวยงามไม่ เหมือนกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบธรรมชาติ
- น้ำตกห้วยผาก : อยู่ก่อนธารน้ำร้อนบ่อคลึงประมาณ 1 กม. มีทางแยกซ้ายเข้าไปทาง วัดห้วยผาก ประมาณ 1 กม. เป็นน้ำตกสายเล็กๆ เชิงเทือกเขาตะนาวศรี ความสูงของชั้นน้ำตก สามารถเดินเที่ยวชมได้
- ธารน้ำร้อนบ่อคลึง : จากตัว อ.สวนผึ้งไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบแยกเข้าสู่ธารน้ำร้อนบ่อคลึง ตรงไปอีก 10 กิโลเมตร บ่อคลึงเป็นธารน้ำร้อนธรรมชาติไหลออกจากซอกหินเชิงเขาตะนาวศรี ในที่ดินของเอกชน จะมีน้ำไหลอยู่ตลอดปี เป็นน้ำร้อนบริสุทธิ์ อุณหภูมิของน้ำประมาณ 120-136 องศาฟาเรนไฮต์ ในช่วงฤดูหนาวยามเช้าไอน้ำจะลอยกรุ่นเป็นหมอกสวยงาม มีบ่อน้ำร้อนและสระน้ำสำหรับอาบน้ำร้อนธรรมชาติ เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร.0-3271-1086 เว็บไซต์ http://www.boeklueng.com/
- อุทยานธรรมชาติวิทยา ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี : ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยผาก ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง อยู่ในบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 132,905 ไร่ จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 โดยมีวัตถุประสงค์คือ อนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ป่า สำรวจสภาพทางสังคม ทางกายภาพ และทางชีวภาพ เพื่อจัดทำเป็นแหล่งความรู้ และเผยแพร่ความรู้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชน และประยุกต์ความรู้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตต่อไป เปิดให้บริการในหลายรูปแบบ อาทิ ศาลาข้อมูลธรรมชาติวิทยา เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ค่ายสิ่งแวดล้อมศึกษา ที่พักร้านจำหน่ายของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ อุทยานฯ มีบ้านพักและเต็นท์ สำหรับอำนวยความสะดวก โทร.0-3232-9016
- น้ำตกเก้าโจน หรือน้ำตกเก้าชั้น : ตั้งอยู่ที่บ้านผาปก ต.ผาผึ้ง เลยจากธารน้ำร้อนบ่อคลึงไปประมาณ 1 กม. เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีความสูง 9 ชั้น ตกจากหน้าผาสูงกลางหุบเขา มีน้ำตลอดปี ปริมาณน้ำจะมากในชั้นบนๆ หินบริเวณน้ำตกเป็นหินแกรนิต จากลานจอดรถซึ่งอยู่ด้านล่าง เดินด้วยเท้าอีกประมาณ 500 เมตร จะถึงบริเวณตัวน้ำตกชั้นล่าง สามารถเดินเท้าต่อไปถึงชั้นสุดท้ายได้ ระยะทางเดินจากชั้นล่างถึงชั้นบน ประมาณ 2 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง
- อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน : ครอบคลุมพื้นที่ อ.ปากท่อและ อ.บ้านคา อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ที่ทำการอุทยานตั้งอยู่เลขที่ 110 หมู่ 5 บ้านไทยประจัน ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี โทร.08-7165-3278 จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางรถยนต์ถนนเพชรเกษมไปถึง จ.ราชบุรี และจากราชบุรีต่อไปจนถึง อ.ปากท่อ จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 3206 ประมาณ 38 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายไปบ้านไทยประจัน รวมระยะทาง 165 กิโลเมตร สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ประกอบไปด้วยลำห้วยต่างๆ เช่น โตรกธารหิน โตรกแซวสวรรค์ โตรกบังไพร และโตรกลีลา น้ำตกไทยประจัน บ่อน้ำพุร้อนโป่งกระทิง และอ่างเก็บน้ำไทยประจัน อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ได้จัดทำลานกางเต็นท์ ศาลาเอนกประสงค์ ห้องประชุม ศาลารับประทานอาหาร พร้อมห้องน้ำ ไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย (ดูรายละเอียด http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=9130)
- อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม : ตั้งอยู่บริเวณ ถ.เพชรเกษม ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี อยู่ห่างจากสี่แยกบางแพ ไปตามถนนบางแพ-ดำเนินสะดวก ประมาณ 600 เมตร อุทยานอยู่ด้านขวามือ มีเนื้อที่ประมาณ 45 ไร่ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2540 เป้าหมายเพื่อเป็นสถานที่พักใจแก่คนทั่วไปในสังคมที่แข่งขันเร่งรัดในปัจจุบัน โดยนำเสนอแง่มุมด้านศิลปะวัฒนธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่งดงามในสังคมพุทธของไทย ภายในบริเวณมีอาคารจัดแสดงรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสบุคคลสำคัญมากมาย และยังมีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจ ได้แก่ ลานพระ 3 สมัย บ้านไทย 4 ภาค ถ้ำชาดก ลานพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.30-17.00 น.ค่าเข้าชม ชาวไทย คนละ 50 บาท ชาวต่างชาติ คนละ 200 บาท โทร.0-3238-1401-3
- วัดเกาะศาลพระ : ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดราชบุรีประมาณ 10 กม. มีเนื้อที่ประมาณ 35 ไร่ ด้านหน้าวัดตั้งอยู่ริมฝั่งขวาของคลองแควอ้อม ด้านหลังอยู่ติดกับโรงเรียนประชาบาลและถนน สายราชบุรี – วัดเพลง เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งไม่ปรากฏว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่พอสันนิษฐานได้จากศิลปะ ลวดลายไทยที่ซุ้มประตูและหน้าบันอุโบสถหลังเก่าว่า สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายหรือต้นรัตนโกสินทร์ มีพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 3 เมตร สูง 4.8 เมตร สร้างด้วยศิลาแลง ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ บริเวณรอบอุโบสถหลังเก่ามีต้นอินจัน 8 ต้น อายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี
- โบราณสถานโคกพระวิหาร : ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะศาลพระ มีลักษณะเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ แผนผังรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสยาวด้านละ 22 เมตร ฐานชั้นล่างสุดมีบันไดยื่นออกมาทั้ง 4 ด้าน ยาวประมาณ 2.30 เมตร ปัจจุบันเหลือร่องรอยอยู่เพียง 3 ด้าน ยกเว้นด้านทิศใต้ซึ่งชำรุดหมด บนฐานสี่เหลี่ยมเป็นลานประทักษิณ รอบองค์เจดีย์พบร่องรอยของปูนฉาบ พื้นฐานชั้นที่สองเป็นฐานบัวมีช่องซุ้ม ส่วนของยอดเจดีย์ไม่สามารถระบุรูปทรงได้เนื่องจากอยู่ในสภาพชำรุด จากการขุดแต่งในปี พ.ศ.2504 และ 2539 โบราณวัตถุที่พบส่วนใหญ่เป็นรูปปั้นรูปใบหน้าบุคคลและเศียรพระพุทธรูปและเทวดา
- โบราณสถานโคกนายผาด : ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะศาลพระ โบราณสถานแห่งนี้มีลักษณะเป็นฐานเจดีย์ขนาดกว้างตามแนวตะวันออก-ตะวันตก 13.70 เมตร ยาวตามแนวเหนือ-ใต้ 17.8 เมตร ฐานชั้นล่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีบันไดยื่นออกมาทั้งสี่ด้าน ฐานชั้นที่สองในแต่ละด้านมีขนาดเล็กยื่นซ้อนกันออกมา 3 ชั้น ถัดขึ้นไปเป็นฐานบัวโค้งรองรับซุ้มสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ในฐานชั้นนี้จากการขุดแต่งในปี พ.ศ.2504 ด้านทิศตะวันออกพบประติมากรรมรูปสิงโตนั่งสลับกับสิงโตยืน ส่วนผนังอีกสามด้านเป็นรูปคนแคระเป็นแบบอิทธิพลศิลปะลังกา นอกจากนั้นเป็นเศียรพระพุทธรูปหรือเทวดาซึ่งทำมาจากปูนปั้นทั้งนั้น
- ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง : เป็นศิลาจารึกในสมัยทวารวดี ประดิษฐานอยู่ระหว่างบ้านหนอง เกษร อำเภอวัดเพลง กับวัดโขลงอำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
- โบสถ์คริสต์พระหฤทัยวัดเพลง : ตั้งอยู่ริมคลองแควอ้อม มีอายุกว่า 100 ปี โดยโบสถ์หลังแรกเป็นโบสถ์ไม้ โบสถ์หลังปัจจุบันเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2432 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2446 ปัจจุบันโบสถ์พระหฤทัยวัดเพลงมีรูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโกธิค ลักษณะโครงเป็นแบบผนังรับน้ำหนัก ถ่านน้ำหนักลงสู่เสาเข็มไม้ ผนังก่ออิฐฉาบปูน ลักษณะโดยรวมงดงามมาก ทางโบสถ์ได้จัดงานครบรอบ 100 ปี เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2546
-http://www.ratchaburi.go.th/data/storyofratchaburi.pdf
-องค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี. (2553). หนังสือประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดราชบุรี.
-สำนักงาน จ.ราชบุรี และสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.ราชบุรี. (2553). สวัสดี..เมืองโอ่ง. ฉบับที่ 7 เดือนมิถุนายน 2553. นครปฐม : เพชรเกษมพริ้นติ้ง กรุ๊ป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น